ประโยชน์ของ AI ต่อวงการเกมในปัจจุบัน | ProGaming

ถ้าถามว่าปัญญาประดิษฐ์หรือ AI ถูกรู้จักเป็นวงกว้างตั้งแต่ตอนไหน ? ..หลายคนอาจจะตอบว่าตั้งแต่ ChatGPT เอไอช่วยตอบคำถาม ช่วยเจ็นภาพ ช่วยเจ็นคลิปเปิดตัว บางคนก็อาจจะตอบว่าตั้งแต่ AlphaGo เอไอที่เล่นโกะชนะมนุษย์ได้สำเร็จ หรือบางคนก็อาจตอบว่า AI มีมานานแล้ว มันอยู่ในเกม หรือระบบการจัดการต่าง ๆ มาตลอด เช่น ระบบค้นหาของ Google ก็ยากที่จะบอกว่านั่นไม่ใช่ AI แต่อย่างใด

แต่ถ้าเอาในแง่ของ “การรู้จัก” จริง ๆ แล้วเรารู้จัก AI จากความ “กลัว” ผ่านสื่อต่าง ๆ ที่เราได้ดูผ่านตามานานมากแล้ว ย้อนกลับไปในปี 1984 เราได้รู้จักกับ Skynet ปัญญาประดิษฐ์ตนแรก ที่สามารถล้มล้างเผ่าพันธุ์ของมนุษย์ได้สำเร็จ จากภาพยนต์เรื่อง Terminator 

ต่อมาจากนั้น มนุษย์ก็ได้รู้จักกับ AI อีกหลายตน ไม่ว่าจะเป็น เซนทิเนล ที่จับคนไปใส่เครื่องเล่นเกม VR ตลอดกาล, เร้ดควีน เอไอปกป้องตึกที่ฆ่าคนเป็นว่าเล่น, กฎ 3 ข้อของหุ่นยนต์จากเรื่อง I, Robot, ไปจนถึงเอไอที่ต้องการปกป้องมนุษย์ด้วยการสังหารมนุษย์อย่าง อัลตรอน

สำหรับมนุษย์อย่างเราแล้ว AI จึงเป็นมากกว่าเครื่องมือ แต่เป็นสัญลักษณ์ของ “โลกยุคแห่งอนาคต” ที่ไม่เคยคิดว่าจะเป็นจริงได้เหมือนกับภาพยนต์ที่เราดู การมาของ Machine Learning ต่อด้วย Generative AI และ Self-Driving Car คือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุด ที่บอกว่า…. โลกกำลังเปลี่ยนไปแบบก้าวกระโดด

รู้หรือไม่ ? AI กับ Game เป็น 2 สิ่งที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่ต้น

ว่ากันตามตรง Game เป็นสื่อที่ใหญ่พอ ๆ กับภาพยนต์ มันต้องถูกจำลองอะไรหลาย ๆ อย่างขึ้นมา ทั้งเมือง โลก เรื่องราว หรือสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในนั้น

AI ในเกม จึงไม่ใช่ AI ที่ฉลาดอะไร แต่เป็น AI ที่ถูกสร้างขึ้นโดยกำหนดเป้าหมายของการกระทำเอาไว้อย่างชัดเจน ทั้งบทพูด ข้อมูลที่จะมอบให้ ไปจนถึงการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีขอบเขตและข้อจำกัดเป็นของตัวเอง

ถ้าคุณเล่นเกมแข่งรถคนเดียว รถคู่แข่งที่วิ่งแข่งกับคุณอยู่ก็คือ AI ถ้าคุณเล่นเกมล่ามอนสเตอร์ มอนสเตอร์ที่ไล่กระทืบคุณก็คือ AI หรือถ้าคุณเลี้ยงสัตว์ในเกม สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นนั่นแหละก็คือ AI เพียงแต่ว่าพวกมันเหล่านี้เป็น AI ที่ไม่ได้มีความซับซ้อนมากนัก เป็นเพียง AI ที่ใส่คำสั่งเพื่อทำงานเฉพาะทาง ไม่สามารถประมวลผลที่แตกต่างจากระบบที่ใส่เอาไว้ให้ได้

แต่ถ้าลองลงลึกไปมากกว่านั้น AI ที่กล่าวก่อนหน้า เรียกได้ว่าเป็นเพียง AI ที่ทำงานหน้าฉากเพียงเท่านั้น เพราะสิ่งที่เรียกว่า Game ถ้าพูดกันแบบดิบ ๆ ก็คือระบบซอฟต์แวร์ขนาดใหญ่รูปแบบหนึ่ง ที่ภายในบรรจุซอฟต์แวร์ระบบย่อย ๆ เอาไว้มากมายเป็นจำนวนมาก

เคยคิดไหมครับ กระสุนปืนจากเกมคอนทราที่เราสามารถยิงออกไปได้หลากหลายแบบ มันถูกสับเปลี่ยนและกำหนดค่าพลังยังไง เวลาจะเปลี่ยนไอเทม ทำไมตัวละครถึงเก่งขึ้นได้ ตัวเกมรู้ได้ยังไงว่าเราสร้างความเสียหายให้กับมอนสเตอร์เท่าไร... สิ่งพวกนี้ก็เรียกว่า AI เหมือนกันครับ เพียงแต่ว่าเป็น AI แบบไม่ปรากฎตัว เป็น AI ที่อยู่เบื้องหลังในแต่ละเกมมาโดยตลอด

ดังนั้นถ้าพูดว่า “AI กับ Game เป็น 2 สิ่งที่อยู่คู่กันมาตั้งแต่ต้น” มันก็คงไม่เกินจริงนัก เพราะสิ่งที่เรียกว่าเกม ภายในตัวมันล้วนเต็มไปด้วยสิ่งที่ต้องประมวลผลหรือหาคำตอบอยู่เสมอ ๆ และเป็นการหาคำตอบที่ต้องใช้ทั้งความเร็วและความถูกต้องแบบมาก ๆ บทบาทของ AI ใน Game จึงเกิดขึ้นมา ตั้งแต่เกมแรกของโลกถูกสร้างขึ้นแล้วนู่นเลย

AI กับการพัฒนาเกมในระดับโลก !!

แม้จะบอกว่า AI กับ Game อยู่คู่กันมาตั้งแต่ต้น แต่ในแง่ของ “การพัฒนา” มันพึ่งจะมาเริ่มหลังการมาของ Generative AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่ใช้สำหรับสร้างสิ่งต่าง ๆ เท่านั้น… 

ถ้าถามว่าตอนนี้ Generative AI สามารถช่วยพัฒนาเกมได้อย่างไรบ้าง คำตอบคงพูดว่าแทบทุกอย่าง ยกเว้นก็แค่การนำมันมาประกอบรวมกันแค่นั้น โดย Generative AI สามารถทำได้ตั้งแต่ออกแบบ สร้างภาพ ปั้นโมเดล เขียนโค๊ด สร้างเรื่องราว ทำอนิเมชัน ไปจนถึงสร้างเสียงเพลงออกมาได้เลย แม้ว่าสิ่งที่สร้างมาจะยังไม่สมบูรณ์ หรือสมบูรณ์ได้เท่ากับความเชี่ยวชาญของผู้ใช้ก็ตาม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มันช่วย “ลดเวลา” และ “เงินทุน” ในการพัฒนาลงไปแบบสุด ๆ 

Andrew Wilson ซีอีโอของ EA เผยว่าตนเชื่อว่า Generative AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างเกม 30% และเพิ่มรายได้ให้บริษัท 20% ภายใน 5 ปีข้างหน้า ความก้าวหน้าอันรวดเร็วของเทคโนโลยีนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถสร้างเกมที่ดียิ่งขึ้น และมีเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้นได้ 

โดยในอดีตการสร้างสนามกีฬาในเกม FIFA ต้องใช้เวลาถึง 6 เดือน แต่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา หลังจากทีมงานได้ใช้ Generative AI ระยะเวลาสร้างก็ลดลงเหลือ 6 สัปดาห์ และเชื่อว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ระยะเวลาอาจลดลงไปอีกจนเหลือเพียง 6 วัน นอกจากนี้ทาง EA ยังได้สร้างการเคลื่อนที่ของนักเตะในเกมเพิ่มขึ้นด้วย Generative AI จากที่มีเพียง 12 รูปแบบ ไปเป็น 1,200 รูปแบบ

Takashi Kiryu ประธานบริษัท Square Enix เองก็มีความตั้งใจในการนำ AI และเทคโนโลยีระดับสูงอื่น ๆ เข้ามาใช้ในทั้งการพัฒนาเนื้อหาและการวางจำหน่ายเกม ในระยะสั้นบริษัทมีเป้าหมายเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนาเกมและการตลาดของบริษัท ในระยะยาวบริษัทหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีเหล่านี้สร้างรูปแบบเนื้อหาใหม่ ๆ สำหรับผู้บริโภค และเชื่อว่านวัตกรรมทางเทคโนโลยี AI สามารถเพิ่มโอกาสทางธุรกิจได้ 

ChatGPT ช่วยกระตุ้นให้เกิดกระแส AI ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เห็นว่าการประยุกต์ของ AI ที่สร้างสรรค์ไม่จำเป็นต้องถูกจำกัดเพียงแค่ข้อความเท่านั้น และที่ผ่านมา Takashi ได้เห็นการเปิดตัวบรรดาบริการและเนื้อหาใหม่ ๆ อย่างรวดเร็วที่ขยาย AI ไปสู่หลาย ๆ ด้าน และเปลี่ยนแปลงกระบวนการสร้างเกม รวมทั้งการเขียนโปรแกรมได้ 

Final Fantasy VII Remake เองก็เป็นอีกเกมที่มีการใช้ AI เข้ามาช่วยในฝั่งของอนิเมชั่นใบหน้าของตัวละคร และการลิปซิงค์ โดย AI จะทำหน้าที่ตัดสินว่าตัวละครแต่ละตัวจะต้องแสดงออกทางอารมณ์อย่างไรในระหว่างการสนทนา ผ่านการตรวจจับอารมณ์ของบทสนทนาทุกบรรทัดในเกม

หรือล่าสุดเมื่อไม่น่นมานี้ ทาง Ubisoft ยังได้เปิดตัว Generative AI ของตัวเองที่ชื่อว่า NEO NPCs ออกมา เป็น AI ที่ออกแบบมาเพื่อ สร้าง NPC รูปแบบใหม่ที่ผู้เล่นสามารถสนทนาได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ โดยไม่ต้องพึ่งบทสนทนาที่กำหนดไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างบทสนทนาที่สมจริง โดยมีเป้าหมายหลักคือให้ดีไซน์เนอร์ด้านการเล่าเรื่องสร้างตัวละคร เขียนบุคลิกภาพและเรื่องราวเบื้องหลังของตัวละคร และสอนโมเดลให้ตอบสนองต่อผู้เล่นตามนั้น โดยที่ยังสามารถป้องกันพฤติกรรมของผู้เล่นที่พิเรนอยากทำลายเกม หรือพูดคำหยาบใส่ NPC ได้แบบเรียลไทม์

ปัจจุบันยังขรุขระ แต่อนาคต AI จะมีประโยชน์มาก ๆ 

แม้ AI จะมีความสามารถที่ดูน่าทึ่งแบบมาก ๆ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพราะความสามารถของมันนั่นแลที่ทำให้เกิดกระแสต่อต้านขึ้น ซึ่งสิ่งที่เป็นแกนหลักในการต่อต้านนี้ ก็เพราะ “ความกลัว” กลัวที่ AI เหล่านี้จะมาแย่งงานผู้คน รวมไปจนถึงเรื่องการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ที่ก็ปฏิเสธไม่ได้เช่นกัน ว่าการสร้าง AI ขึ้นมา จำเป็นต้องใช้ข้อมูลจำนวนของผู้คนจำนวนมาก จนบางครั้งหลาย ๆ บริษัทเลือกจะลักไก่นำข้อมูลมาใช้โดยไม่ขออนุญาตเจ้าของข้อมูลก่อน

อย่างไรก็ตาม ในท้ายที่สุด เหตุการณ์นี้จะต้องมีจุดสิ้นสุด และจุดลงตัวที่ทั้ง 2 ฝ่ายพอใจอย่างแน่นอน เหมือนกับในอดีต ที่เกิดเครื่องจักรมากมายมาแทนที่แรงงาน หรือเกิดรถยนต์มาแทนที่รถถีบ เมื่อมันก้าวไปถึงจุดที่ผู้คนยอมรับ AI จะเข้ามาเกี่ยวข้องกับทุกอย่างในชีวิตเรา ไม่ต่างกับสมาร์ตโฟน ที่ทุกวันมันได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้คนไปแล้ว

แน่นอนว่าในอุตสาหกรรมเกมเองก็เหมือนกัน เชื่อว่าหากใครได้ดูอนิเมะหรืออ่านมังงะเกี่ยวกับโลกในเกมอย่าง Sword Art Online หรือ Shangri-La Frontier จุดเริ่มต้นที่เราจะได้เล่นเกมในรูปแบบนั้น ก็จะเริ่มต้นมาจากความก้าวหน้าด้าน AI นั่นเอง

อย่างที่เราบอกในข้างต้น เกมและ AI นั้นอยู่ร่วมกันมาตั้งแต่ต้น เมื่อเทคโนโลยี AI พัฒนา เกมที่เราจะได้เล่นต่อ ๆ ไปในอนาคตก็จะก้าวหน้าตาม หรืออย่างที่ Ubisoft กำลังพยายามทำ แค่คิดว่าในอนาคต NPC ที่เราจะได้คุยในเกมทุกตนนั้นเป็น ChatGPT ที่สวมบทบาทเป็นตัวละครต่าง ๆ ความน่าเล่นของตัวเกมก็เพิ่มขึ้นไปอีกมากมายแล้ว

ในฝั่งของผู้พัฒนาเอง เมื่อสามารถลดเวลาในการพัฒนาเกมลงได้ การใส่ใจรายละเอียดรวมไปจนถึงคุณภาพก็จะสูงมากขึ้น เพราะพวกเขาจะมีเวลาไปไล่เก็บบางส่วนของตัวเกมที่เก็บรายละเอียดได้ไม่หมด ได้ทดสอบมากขึ้น แก้ไขได้มากขึ้น รวมไปจนถึงพัฒนาตัวเกมให้ล้ำกว่าเดิมได้ ตามเวลาที่มีมากกว่าเดิม แม้จะมีเส้นตายการพัฒนาเท่าเดิมก็ตาม

สำหรับฝั่ง ProGaming เอง ก็เริ่มที่จะหยิบเอา Generative AI ใหม่ ๆ มาใช้เพิ่มประสบการณ์ในเกมแล้วบ้างเช่นกัน ที่โดดเด่นที่สุด คือเราได้ใช้ AI ในการช่วยกำหนดนิสัยให้ตัวละคร และให้ AI เลือกว่าตัวละครนั้นจะทำหรือไม่ทำอะไร ตอบสนองต่อสิ่งต่าง ๆ ตามนิสัยของตนเอง ทำให้เกมมีความสมจริง สร้างประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมายให้กับผู้เล่น

สำหรับใครที่สนใจอยากมี AI เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแค่ฟีเจอร์หนึ่ง หรือเป็นระบบ AI แบบเฉพาะ สามารถติดต่อเราได้ที่นี่ได้เลย >> https://www.progaming.co.th/services/ai